ธนูหลังม้า

ธนูหลังม้า

ธนูหลังม้า จัดอยู่ในกลุ่มของธนูโบราณหรือธนูเทรดดี้ฝั่งเอเชีย ธนูหลังม้าเป็นธนูที่มีลักษณะเด่นคือมีคันธนูสั้นเน้นพกพาสะดวกและยิงได้ง่ายบนหลังม้า รูปร่างของคันธนูหลังม้ามีการออกแบบและพัฒนาขึ้นมาเป็นธนูเพื่อการสงครามโดยเฉพาะ ถึงแม้คันธนูจะสั้นกว่าแต่มีความรวดเร็วรุนแรงไม่แพ้ธนูประเภทอื่นๆ

ธนูหลังม้ามีข้อดีหรือความได้เปรียบธนูประเภทอื่นๆ คือโหลดลูกธนูได้ไวและยิงลูกธนูออกไปได้เร็วมาก ธนูหลังม้าคันเดียวสามารถยิงได้ทั้งมือซ้ายและมือขวาเนื่องจากธนูประเภทนี้ไม่มีเรสท์หรือที่พักลูก อาศัยวางลูกธนูบนนิ้วโป้งข้างที่ถือคันธนู ปกติการยิงธนูหลังม้าจะใช้ลักษณะการยิงแบบเอเซียคือวางลูกธนูพาดคันฝั่งเดียวกับมือที่น้าวสายธนู โดยใช้นิ้วโป้งซึ่งใส่แหวนสำหรับยิงธนูเกี่ยวสายเพื่อทำการยิง  หากฝึกยิงธนูหลังม้าจนชำนาญโดยเฉพาะใช้ท่ายิงแบบ Slavic สามารถโหลดและยิงลูกธนูได้ไวกว่าการยิงธนูแบบทางตะวันตกที่ต้องวางพาดลูกธนูบนเรสท์ฝั่งตรงข้ามกับมือที่น้าวสายมากเลยทีเดียว 

กลุ่มที่ใช้ธนูหลังม้าจนมีชื่อเสียงเป็นที่รู้จักกันดี คือทหารมองโกล ซึ่งทหารมองโกลส่วนใหญ่ล้วนมีความชำนาญในการขี่ม้าและมีทักษะการยิงธนูบนหลังม้าอย่างยอดเยี่ยม  ทหารมองโกลจึงมีหน่วยทหารที่สามารถทำการรบด้วยธนูจากระยะไกลมากกว่ากองทัพอื่นๆ อย่างเทียบกันไม่ได้  ซึ่งในอดีตการรบด้วยธนูสามารถทำลายและข่มขวัญศัตรูตั้งแต่ระยะไกลก่อนจะได้เข้ารบกันด้วยอาวุธประจำตัว จึงส่งผลให้ทหารมองโกลชนะศึกเหนือดินแดนไปเกือบทุกอาณาจักร

จุดด้อยของธนูหลังม้าก็มี คือไม่มีจุดมาร์ควางพักลูกบนคันธนูที่เรียกว่าเรสท์  และท่ายิงที่ต้องอาศัยประสบการณ์และความสำนาญมากกว่าการยิงด้วยวิธีเล็งตรงๆ  จึงทำให้การฝึกยิงธนูหลังม้าให้แม่นยำทำได้ยากกว่าธนูประเภทอื่น แต่เมื่อเทียบกับความเร็วในการโหลดลูกธนูเพื่อยิงมากกว่าธนูที่ยิงแบบยุโรปหลายเท่าตัว ธนูหลังม้าก็ถือว่าเป็นอาวุธสังหารที่น่ายำเกรงอยู่ดี และในอดีตธนูหลังม้าส่วนใหญ่ใช้วัสดุจากธรรมชาติโดยเฉพาะไม้และเขาสัตว์โดยใช้กาวซึ่งทำจากการเคี่ยวเอ็นของสัตว์เป็นตัวสมาน ธนูหลังม้าโดยเฉพาะในยุคของทหารมองโกลจึงมีจุดอ่อนหากโดนความชื้นมากๆ ก็จะพังเสียหายได้ง่าย จึงเป็นข้อสังเกตุได้ว่าทหารมองโกลไม่ได้แผ่ขยายอาณาเขตเข้ายึดครองในดินแดนที่มีฝนตกชุกหรืออากาศร้อนชื้นมากนัก

อย่างไรก็ตามธนูหลังม้าเป็นธนูที่มีความคลาสสิคและดุดันดูสปอร์ตในตัวธนูคันเดียวกัน  โดยเฉพาะธนูหลังม้าคุณภาพดีๆ แม้คันธนูจะสั้นแต่ด้วยท่ายิงแบบเอเซียที่มีระยะน้าวสายยาวกว่าการยิงธนูแบบตะวันตก  ทำให้การยิงลูกธนูออกไปได้นุ่มนวลแต่มีสปีดของลูกธนูเร็วมาก ธนูหลังม้าจึงเป็นธนูที่ยิงสนุก หากได้ฝึกยิงบ่อยๆ ก็จะคุ้นชินและชำนาญ เมื่อชำนาญก็จะสามารถควบคุมวิถีของลูกธนูได้ง่ายขึ้นและจะมีความแม่นยำไม่แพ้ธนูประเภทอื่นๆ แต่ที่ธนูหลังม้ามีความเหนือกว่าคือโหลดลูกได้ไวและยิงได้เร็วกว่าเป็นต้นทุนที่ได้เปรียบชนิดที่ธนูฝั่งตะวันตกสู้ได้ยาก

การยิงธนูหลังม้า จะใช้ท่ายิงธนูแบบเอเชียด้วยนิ้วโป้ง ดังนั้นสิ่งที่ขาดไม่ได้คือทัมป์ริงหรือแหวนยิงธนูเพื่อช่วยลดการบาดเจ็บจากการยิงธนู แต่โดยส่วนตัวชอบการยิงธนูสไตล์สลาวิค โดยใส่ถุงมือแล้วใช้นิ้วกลางนิ้วนางและนิ้วก้อยเกี่ยวสายธนูโดยใช้นิ้วชี้ประคองท้ายลูกธนูสามารถยิงธนูได้โดยไม่เจ็บนิ้วเหมือนการยิงด้วยนิ้วโป้งที่แม้ว่าใส่แหวนช่วยแล้วก็ยังเจ็บอยู่ดี  เพราะอย่างไรก็ตามการดึงสายธนูโดยการรั้งด้วย 3 นิ้วก็มีแรงกระทำต่อนิ้วแต่ละนิ้วน้อยกว่าการดึงสายธนูด้วยนิ้วโป้งนิ้วเดียวอยู่ดี แถมการยิงแบบสลาวิคโดยส่วนตัวก็ยังทำให้รู้สึกว่าโหลดลูกธนูและยิงออกไปได้ไวกว่าการยิงด้วยนิ้วโป้งอีกด้วย

สนใจยิงธนูหลังม้าหรือเรียนรู้วิธียิงธนูหลังม้า  สนามยิงธนูของอาร์เคเออาร์เชอรี่ ที่หาดสำเร็จ อ.ท่าชนะ จ.สุราษฎร์ธานี เรามีธนูให้ฝึกยิง และหากสนใจเป็นเจ้าของธนูหลังม้าคุณภาพดีซักคัน เราก็มีจำหน่ายในราคาไม่แพง หากยิงธนูจนชำนาญจะขึ้นไปฝึกยิงธนูบนหลังม้าจริงๆ เราก็มีม้าจริงๆ ให้ได้เรียนรู้และพัฒนาทักษะการยิงธนูขั้นสูง สามารถติดต่อสอบถามและจองใช้บริการได้ที่ โทร. 084-625-9929

สนามยิงธนูอาร์เคเอ ( RKA Archery ) อยู่ที่ หาดสำเร็จ อำเภอท่าชนะ จังหวัดสุราษฎร์ธานี  บริการสอนและให้ฝึกซ้อมยิงธนู รวมถึงจำหน่ายธนูมาตรฐานราคาไม่แพง สำหรับท่านที่สนใจยิงธนูแต่ไม่มีธนู เรามีทั้งธนูเทรดดี้ ธนูรีเคิฟ และธนูคอมปาวด์ ให้ยืมฝึกยิง ส่วนท่านที่ยังไม่เคยยิงธนูเราก็มีครูสอนวิธียิงธนูที่ถูกต้องและปลอดภัยให้ด้วย   สนใจยิงธนูที่สุราษฎร์ธานีติดต่อจองใช้สนามยิงธนูได้ที่ โทร. 084-625-9929

ค่าบริการใช้สนามยิงธนูของ RKA  สนามยิงธนูเปิดให้บริการตั้งแต่เวลา 15.00-18.00 น. ให้บริการเฉพาะผู้ที่จองล่วงหน้าเท่านั้น) โดยมีค่าบริการดังนี้

#สนามยิงธนู #สอนยิงธนู #สนามยิงธนูสุราษฎร์ธานี #สนามยิงธนูท่าชนะ #ขายธนู