มัสยิดกรือเซะ ปัตตานี

มัสยิดกรือเซะ ปัตตานี

มัสยิดกรือเซะ หรือ มัสยิดสุลต่านมูซัฟฟาร์ชาห์ เป็นมัสยิดเก่าแก่อายุร่วม 300 ปี ถือว่าเป็นมัสยิดแห่งแรกของอาเซียนที่มีการก่อสร้างด้วยอิฐแดง ตั้งอยู่ในจังหวัดปัตตานี  เป็นอีกหนึ่งสถานที่น่าสนใจที่ใครไปเที่ยวปัตตานีนิยมไปเที่ยวกัน สันนิษฐานได้ว่ามัสยิดกรือเซะเป็นศาสนสถานที่สร้างขึ้นในสมัยกรุงศรีอยุธยา มีชื่อเรียกอีกอย่างหนึ่งว่า มัสยิดปิตูกรือบัน ซึ่งเรียกตามรูปทรงของประตูมัสยิด  ที่มีลักษณะเป็นวงโค้งแหลมแบบโกธิคของชาวยุโรปซึ่งแบบสถาปัตยกรรมของชาวตะวันออกกลาง ตัวอาคารของมัสยิดกรือเซะสร้างโดยการก่ออิฐถือปูน มีเสาทรงกลมเลียนรูปแบบเสาโกธิคของยุโรป ช่องประตู หน้าต่างมีทั้งแบบโค้งแหลม และโค้งมนแบบโกธิค โดยในส่วนของโดมและหลังคายังก่อสร้างไม่เสร็จ อิฐที่ใช้ก่อมีรูปลักษณะเป็นอิฐสมัยอยุธยา ตรงฐานมัสยิดมีอิฐรูปแบบคล้ายอิฐสมัยทวารวดีผสมอยู่ด้วย

หนังสือสยาเราะห์ปัตตานีของนายหะยี หวันหะซัน กล่าวว่า สุลต่านลองยุนุสเป็นผู้สร้างประมาณปีฮิจเราะห์ ๑๑๔๒ ตรงกับพุทธศักราช ๒๒๖๕ สมัยอยุธยาตอนปลาย เหตุที่ก่อสร้างไม่เสร็จเนื่องจากเกิดสงครามแย่งชิงราชสมบัติระหว่างสุลต่านลองยุนุสกับระตูปะกาลันซึ่งเป็นพระอนุชาของพระองค์ หลังจากสุลต่านลองยุนุสสิ้นพระชนม์แล้ว ระตูปูยุดได้รับตำแหน่งสุลต่านเมืองตานีคนต่อมาได้ย้ายศูนย์การปกครองเมืองตานีไปตั้งอยู่ ณ บ้านปูยุด ซึ่งอยู่ในเขตท้องที่ ตำบลปูยุด อำเภอเมืองปัตตานีในปัจจุบัน  จึงไม่มีผู้ใด้คิดสร้างต่อเติมมัสยิดให้เสร็จได้ทิ้งรกร้างไว้เช่นนั้น ต่อมากรมศิลปากรได้ประกาศขึ้นทะเบียนเป็นโบราณสถาน และทำการบูรณะซ่อมแซม ทั้งนี้เพื่อให้มัสยิดกรือเซะคงสภาพเป็นโบราณสถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์ของเมืองปัตตานี และใช้เป็นที่ปฏิบัติศาสนกิจได้ต่อไป

บริเวณด้านหน้าของมัสยิดกรือเซะ มีสุสานที่ฝังศพของเจ้าแม่ลิ้มกอเหนี่ยว ซึ่งมีอีกหนึ่งตำนานของมัสยิดกรือแซะได้เล่ากันมาว่า สร้างโดยลิ้มโต๊ะเคี่ยมพี่ชายของลิ้มกอเหนี่ยวซึ่งเป็นชาวจีนได้มาแต่งงานกับธิดาพระยาตานีและได้เปลี่ยนมานับถือศาสนาอิสลาม ต่อมาน้องสาวของลิ้มโต๊ะเคี่ยมซึ่งก็คือลิ้มกอเหนี่ยวได้ลงเรือสำเภามาตามให้พี่ชายกลับเมืองจีนแต่ไม่สำเร็จ 

ลิ้มโต๊ะเคี่ยมได้สร้างมัสยิดกรือเซะขึ้น ลิ้มกอเหนี่ยวจึงได้สาปแช่งขออย่าให้สร้างมัสยิดสำเร็จ และตัวเองได้ผูกคอตายที่ต้นมะม่วงหิมพานต์ ลิ้มโต๊ะเคี่ยมได้จัดการฝังศพน้องสาวไว้ที่หน้ามัสยิดแห่งนี้ ชาวปัตตานีนำต้นไม้ที่ลิ้มกอเหนี่ยวผูกคอตายมาแกะเป็นรูปบูชาและสร้างศาลเจ้า ต่อมาได้มีการ อัญเชิญเจ้าแม่ลิ้มกอเหนี่ยวมาประดิษฐานไว้ ณ ศาลเจ้าแห่งใหม่ ตั้งอยู่ที่ถนนอาเนาะรู ในเขตเทศบาล เมืองปัตตานี เรียกว่าศาลเจ้าเล่งจูเกียงหรือศาลเจ้าแม่ลิ้มกอเหนี่ยว เป็นที่นับถือของชาวปัตตานี และชาวจังหวัดมาก

ส่วนมัสยิดกรือเซะก็เป็นไปตามคำสาปของลิ้มกอเหนี่ยว เพราะไม่สามารถสร้างเสร็จได้ เมื่อจะสร้างต่อก็ให้มีอาเพศ ฟ้าผ่าทุกครั้งไป จนถึงปัจจุบันก็ไม่มีใครกล้าสร้างมัสยิดกรือเซะต่อ คงเหลืออยู่ในสภาพปัจจุบันเช่นที่เห็นมาจนทุกวันนี้

การเดินทางไปเที่ยวชมมัสยิดกรือเซะ ตั้งอยู่ที่บ้านกรือเซะ ตำบลตันหยงลุโละ อำเภอเมือง จังหวัดปัตตานี นักท่องเที่ยวสามารถเข้าไปเที่ยวชมได้ตลอดทั้งวัน

สนใจจัดทริปเที่ยวทุกรูปแบบ รวมถึงจัดสัมมนาดูงาน นำเที่ยวในจังหวัดปัตตานี จัดเที่ยวทั่วไทย และพาไปเที่ยวต่างประเทศ จัดได้ทั้งกรุ๊ปใหญ่และกรุ๊ปเล็กส่วนตัว  ให้บริการนำเที่ยวแบบครบวงจร เดินทางแบบวีไอพี กิจกรรมสนุกอาหารอร่อยนอนสบาย บริการแบบมืออาชีพด้วยมาตรฐานบริษัททัวร์ในราคาไม่แพง สอบถามเพิ่มเติมได้ที่ โทร. 084-625-9929 

เขียนโดย ศักดิ์เพ็ชร  เรืองแพ
www.rkatour.com

#มัสยิดกรือเซะ #เที่ยวปัตตานี