วัดพระศรีรัตนศาสดาราม
พระแก้วมรกต วัดพระศรีรัตนศาสดาราม
วัดพระศรีรัตนศาสดาราม หรือวัดพระแก้ว เป็นวัดในพระบรมมหาราชวังที่พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช โปรดเกล้าฯ ให้สร้างขึ้นใน พ.ศ. 2325 โดยมีพระราชประสงค์ให้เป็นที่ประดิษฐานพระแก้วมรกต วัดพระแก้วเป็นวัดที่ไม่มีพระสงฆ์จำพรรษาจึงมีแต่ส่วนพุทธาวาสไม่มีส่วนสังฆาวาส ถือได้ว่าเป็นวัดสำคัญที่สุดของไทย เป็นศูนย์รวมน้ำใจของพุทธศาสนิกชนทั่วประเทศ เป็นวัดที่มีนักท่องเที่ยวโดยเฉพาะชาวต่างชาติ ไปเที่ยวชมและสร้างได้จากการท่องเที่ยวได้มากเป็นอันดับต้นๆ ของไทย
พระแก้วมรกต วัดพระแก้ว
จิตกรรมฝาผนังวัดพระแก้ว
จิตกรรมฝาผนังเรื่องรามเกียรติ์
ปราสาทพระเทพบิดร
ภายในวัดพระแก้วหรือวัดพระศรีรัตนศาสดารามมีสิ่งสำคัญและน่าสนใจมากมายหลายอย่าง เช่น
พระแก้วมรกต เป็นพระพุทธรูปแกะสลักจากหยกสีเขียวเข้มที่มีค่าและหายากมาก ประทับนั่งสมาธิราบในสกุลช่างล้านนา เป็นพระพุทธรูปคู่บ้านคู่เมืองซึ่งรัชกาลที่ 1 ได้ทรงอัญเชิญมาจากเมืองเวียงจันทร์ พระแก้วมรกตจะมีการเครื่องทรงในแต่ละฤดูทั้งฤดูร้อน ฤดูฝนและฤดูหนาว ที่ถือเป็นพระราชกรณียกิจสำคัญประการหนึ่งของพระมหากษัตริย์มาตั้งแต่รัชกาลที่ 1 จนถึงรัชกาลปัจจุบันที่จะต้องเสด็จฯ ไปทรงเปลี่ยนเครื่องทรงประจำฤดูด้วยตนเอง
ภาพจิตรกรรมฝาผนังเรื่องรามเกียรติ์ โดยรอบพระระเบียงของวัดพระแก้วมรกตได้มีการเขียนภาพเล่าเรื่องรามเกียรติ์มาตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ 1 เริ่มตั้งแต่ภาพนารายณ์อวตารปางต่างๆ ก่อนที่จะอวตารเป็นพระราม ปรากฏอยู่ตามซุ้มประตูและมุขพระระเบียงมีประมาณ 80 ภาพ แล้วไปต่อเรื่องรามเกียรติ์ตั้งแต่ห้องที่ 1 – 178 มีคำบรรยายใต้ภาพและคำบรรยายเป็นโคลงสลักบนแผ่นหินอ่อนติดอยู่ที่เสารอบพระระเบียง
ยักษ์ทวารบาล เป็นยักษ์จากเรื่องรามเกียรติ์มีรวม 12 ตน ยืนยามเฝ้ารอบพระอุโบสถวัดพระแก้ว สร้างขึ้นในสมัยพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 3 ถือว่าเป็นวัดที่มียักษ์มากที่สุดในประเทศไทย โดยยักษ์ทั้ง 12 ตนประกอบด้วย สุริยาภพ , อินทรชิต , มังกรกัณฐ์ , วิรุฬหก , ทศคีรีธร , ทศคีรีวัน, กรวรรดิ, อัศกรรณมารา , ทศกัณฐ์ , สหัสเดชะ , ไมยราพณ์, วิรัญจำบัง
พระศรีรัตนเจดีย์ ตั้งอยู่บนฐานไพทีทางทิศตะวันตก สร้างในสมัยรัชกาลที่ 4 ภายในประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุ สมัยแรกสร้างนั้นยังไม่ได้มีการประดับกระเบื้อง ต่อมาในสมัยรัชกาลที่ 5 ได้มีการประดับกระเบื้องสีทองทั้งองค์เจดีย์
นครวัดจำลอง รัชกาลที่ 4 ทรงสั่งให้จำลองปราสาทนครวัดไว้ที่วัดพระแก้ว เป็นปราสาทนครวัดแห่งเดียวที่เสร็จสมบูรณ์เพราะปราสาทองค์จริงที่เขมรสร้างไม่เสร็จ
หอระฆังวัดพระแก้ว เป็นที่เก็บระฆังที่ขุดพบที่วัดระฆังโฆษิตารามอันเป็นที่มาของชื่อวัดระฆัง เป็นระฆังที่มีเสียงกังวานเพราะมาก ใช้ย่ำระฆังเฉพาะในพระราชพิธีสถาปนาสมเด็จพระสังฆราชเท่านั้น ใครมีโอกาสได้ยินเสียงระฆังวัดพระแก้วถือว่ามีบุญมากเพราะโอกาสในการได้ฟังแต่ละครั้งค่อนข้างนานมาก
พระบรมราชสัญลักษณ์ประจำรัชกาล ตั้งอยู่รอบพระมณฑป มีดังนี้
พระบรมราชสัญลักษณ์ รัชกาลที่ 1 เป็นรูปมงกุฎไม่มีพระจอน
พระบรมราชสัญลักษณ์ รัชกาลที่ 2 เป็นรูปพระยาครุฑจับนาค
พระบรมราชสัญลักษณ์ รัชกาลที่ 3 เป็นรูปพระวิมาน
พระบรมราชสัญลักษณ์ รัชกาลที่ 4 เป็นรูปพระมหามงกุฎ
พระบรมราชสัญลักษณ์ รัชกาลที่ 5 เป็นรูปพระจุลมงกุฎ (หรือพระเกี้ยว)
พระบรมราชสัญลักษณ์ รัชกาลที่ 6 เป็นรูปวชิราวุธ
พระบรมราชสัญลักษณ์ รัชกาลที่ 7 เป็นรูปพระแสงศร 3 องค์
พระบรมราชสัญลักษณ์ รัชกาลที่ 8 เป็นรูปพระโพธิสัตว์
พระบรมราชสัญลักษณ์ รัชกาลที่ 9 เป็นรูปพระที่นั่งอัฐทิศ ประกอบด้วยวงจักร กลางวงจักรมีอักขระเป็น “อุ” หรือ “เลข9” รอบวงจักรมีรัศมีเปล่งออกโดยรอบ เหนือจักรเป็นรูปเศวตฉัตร 7 ชั้น
ปราสาทพระเทพบิดร เป็นปราสาทจตุรมุข ยอดปรางค์มีนภศูล และมงกุฎอยู่บนยอด ประดับกระเบื้องเคลือบ องค์เดียวในประเทศไทย สร้างขึ้นในสมัยรัชกาลที่ 4 เดิมจะอัญเชิญพระแก้วมรกตมาไว้ แต่เมื่อสร้างเสร็จเห็นว่าคับแคบไม่เหมาะแก่การพระราชพิธี จึงมิได้อัญเชิญพระแก้วมรกตมาประดิษฐาน ปัจจุบันได้มีการประดิษฐานพระบรมรูปเพิ่มตามการเปลี่ยนรัชสมัย ปราสาทพระเทพบิดรจะเปิดให้ประชาชนเข้าชมปีละ 7 วัน ได้แก่ วันปีใหม่ วันจักรี วันสงกรานต์ (13 – 15 เมษายน) วันแม่แห่งชาติ วันพ่อแห่งชาติ
พระอุโบสถวัดพระแก้ว สร้างในสมัยรัชกาลที่ 1 พระอุโบสถมีระเบียงเดินได้โดยรอบ ตัวพระอุโบสถมีฐานปัทม์รับอีกชั้นหนึ่ง ประดับครุฑยุดนาคหล่อด้วยโลหะปิดทอง ผนังพระอุโบสถ ในรัชกาลที่1 เขียนลายรดน้ำบนพื้นชาดแดง รัชกาลที่ 3 โปรดเกล้าฯ ให้ปั้นลายพุ่มข้าวบิณฑ์ปิดทองประดับกระจก เพื่อให้เข้ากับผนังมณฑป ปิดทองประดับกระจกบานพระทวารและพระบัญชรประดับมุกทั้งหมด ที่เชิงบันไดมีสิงห์หล่อด้วยสำริดบันไดละคู่ รวม 12 ตัว โดยได้แบบมาจาก เขมรคู่หนึ่ง แล้วหล่อเพิ่มอีก 10 ตัว
พระบรมมหาราชวัง กรุงเทพมหานคร ได้รับการสถาปนาเป็นราชธานีของไทยมาตั้งแต่ พ.ศ. 2325 เมื่อพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกเสด็จขึ้นเถลิงถวัลยราชสมบัติเป็นพระปฐมกษัตริย์แห่งบรมราชจักรีวงศ์ พระองค์ได้โปรดเกล้าฯ ให้สร้างพระราชวังขึ้นทางฝั่งตะวันออกของแม่น้ำเจ้าพระยา ทั้งยังให้สร้างพระอารามหลวงขึ้นในเขตพระราชวังและพระราชทานนามพระอารามว่า “ วัดพระศรีรัตนศาสดาราม “ พระบรมมหาราชวัง มีพื้นที่ประมาณ 152 ไร่ โดยวางผังพระที่นั่งต่าง ๆ แบบเดียวกันกับพระราชวังหลวงที่กรุงศรีอยุธยา ประกอบไปด้วย
พระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท เป็นพระมหาปราสาทองค์แรกที่สร้างขึ้นในพระราชวังหลวง เดิมชื่อพระที่นั่งอมรินทราภิเษกมหาปราสาท ใช้เป็นที่ประดิษฐานพระบรมศพพระมหากษัตริย์ สมเด็จพระอัครมเหสี และพระบรมวงศานุวงศ์บางพระองค์ และยังใช้ในพระราชพิธีพระราชกุศลต่าง ๆ รวมทั้งพระราชพิธีฉัตรมงคล
พระที่นั่งอาภรณ์พิโมกข์ปราสาท สร้างจากไม้ทั้งหลัง ตั้งอยู่ทางด้านตะวันออกของพระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 4 โปรดฯ ให้สร้างขึ้นเพื่อเป็นพลับพลาสำหรับประทับทรงพระราชยานรับส่งเสด็จในขบวนพยุหยาตรา และประทับเปลื้องเครื่องในงานพระราชพิธีที่มีขบวนแห่
พระที่นั่งพิมานรัตยา สร้างขึ้นในสมัยพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 6 สำหรับเป็นที่บรรทมและใช้เป็นที่ชุมนุมมหาสมาคมสำหรับพระบรมวงศานุวงศ์และข้าราชบริพารฝ่ายในเข้ารับพระราชทานเครื่องอิสริยยศและเครื่องราชอิสริยาภรณ์
พระที่นั่งจักรีมหาปราสาท สร้างขึ้นในสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 เป็นสถาปัตยกรรมแบบผสมยุโรปและไทย เนื่องจากผู้ออกแบบเป็นสถาปนิกชาวอังกฤษ และเจ้าพระยาภาณุวงศ์มหาโกษาธิบดี (ท้วม บุนนาค) เป็นแม่กอง องค์พระที่นั่งเป็นสถาปัตยกรรมแบบยุโรป แต่หลังคาสร้างเป็นสถาปัตยกรรมแบบไทย ใช้เป็นที่รับรองพระราชอาคันตุกะชั้นพระราชาธิบดีหรือชั้นประมุขของรัฐ นอกจากนี้ยังมีหมู่พระที่นั่งที่สำคัญองค์อื่น ๆ อีกมากมาย
ข้อควรรู้ในการเข้าชมวัดพระแก้วมรกตและพระบรมมหาราชวัง
คนไทยเข้าชมฟรี แต่ชาวต่างชาติมีค่าเข้าชม 500 บาท ( รวมบัตรเข้าชมวัดพระแก้วและพระบรมหาราชวัง)
วัดพระแก้วมรกตเปิดให้เข้าชมทุกวัน ระหว่างเวลา 08.30 - 15.30 น.
การเข้าชมต้องแต่งกายให้สุภาพเรียบร้อย
แนะนำว่าควรใช้บริการมัคคุเทศก์ จะได้รับความรู้และอรรถรสในการเข้าชมเพิ่มอีกมากมาย
ภายในพระอุโบสถไม่อนุญาตให้ถ่ายภาพ
วัดพระศรีรัตนศาสดาราม เป็นวัดสำคัญของไทย มีเกร็ดรู้และความเป็นมาที่น่าสนใจอีกมากมาย มีความงดงามด้วยเรื่องราวทางประวัติศาสตร์และเป็นสถาปัตยกรรมที่โดดเด่นทางด้านงานศิลป์ การไปชมวัดโพระแก้วมรกตให้ได้ทั้งความรู้และความเพลิดเพลิน ต้องไปเที่ยวกับไกด์ที่มีความรู้เชี่ยวชาญและชำนาญการนำเที่ยว โดยหากสนใจเที่ยวชมวัดพระแก้วและทัวร์เกาะรัตน์โกสินทร์แบบรู้ลึก รู้จริง สามารถติดต่อได้ที่โทร. 084-625-9929
สนใจจัดทริปเที่ยวทุกรูปแบบ ทั้งจัดสัมมนาดูงาน พาเที่ยวได้ทั่วไทย รวมถึงพาไปเที่ยวต่างประเทศ จัดได้ทั้งกรุ๊ปใหญ่และกรุ๊ปเล็กส่วนตัว บริการแบบมืออาชีพด้วยมาตรฐานบริษัททัวร์ในราคาไม่แพง สอบถามเพิ่มเติมได้ที่ โทร. 084-625-9929 หรือ Line ID : เบอร์โทรศัพท์ 0846259929
เขียนโดย ศักดิ์เพ็ชร เรืองแพ
www.rkatour.com
#วัดพระแก้วมรกต #พระแก้วมรกต #วัดพระศรีรัตนศาสดาราม #เที่ยวเกาะรัตนโกสินทร์