เชิญร่วมเส้นทางแสวงบุญตามรอยพระพุทธเจ้า
เที่ยวอินเดียและเนปาล ในปี 2566
เชิญร่วมเส้นทางแสวงบุญตามรอยเส้นทางของพระพุทธเจ้าในประเทศอินเดียและเนปาล ในปี พ.ศ. 2566
อาร์เคเอทัวร์ ร่วมกับคณะสงฆ์ของวัดไทยในประเทศอินเดีย ขอเชิญชาวพุทธผู้สนใจร่วมเดินทางสู่ดินแดนชมพูทวีป ไปศึกษาเรียนรู้และสัมผัสถึงรากเหง้าของพระพุทธศาสนา ณ ดินแดนต้นกำเนิด ไปดูด้วยตัวและไปให้เห็นกับตา กับร่องรอยทางประวัติศาสตร์ต่างๆเกี่ยวกับพระพุทธองค์ก็ยังถูกเก็บรักษไว้เป็นอย่างดี โดยเฉพาะใน 4 สังเวชนียสถานที่ผู้ใดไปถึงเชื่อว่าผู้นั้นจะได้ผลบุญอันยิ่งใหญ่ และการไปสักการะในบางสถานที่อันศักดิ์สิทธิ์เหล่านั้น ก็เปรียบดังได้เข้าเฝ้าพระพุทธเจ้าโดยตรง ซึ่งคงมีเฉพาะคนที่เคยไปมาแล้วเท่านั้นที่สามารถรับรู้ได้ถึงความปิติอิ่มเอิบใจในการไปแสวงบุญตามรอยเส้นทางของพระพุทธเจ้า
โปรแกรมแสวงบุญตามรอยเส้นทางของพระพุทธเจ้าในปี พ.ศ. 2566 มีกำหนดการเดินทางรอบละ 8-10 วันในระหว่างเดือน พฤศจิกายน 2566 - กุมภาพันธ์ 2567 ซึ่งระยะเวลาในการเดินทางไปแสวงบุญจะขึ้นกับเงื่อนไขตารางของสายการบิน ซึ่งจะแจ้งรายละเอียดกับผู้ร่วมคณะโดยตรงอีกครั้ง โดยนอกจากจะได้ไปสักการะ 4 มหาสถานที่สำคัญที่สุดของพระพุทธศาสนาอันประกอบด้วย สถานที่ประสูติ ตรัสรู้ แสดงปฐมเทศนา และปรินิพพาน ของพระพุทธเจ้าแล้ว ยังจะได้ไปแวะชมสถานที่สำคัญที่เกี่ยวข้องกับพระพุทธประวัติอีกมากมาย โดยมีโปรแกรมการเดินทางแนะนำเบื้องต้น ดังนี้
วันที่ 1 ของการเดินทางโปรแกรมพาไปแสวงบุญตามรอยเส้นทางของพระพุทธเจ้า ณ ประเทศอินเดียและเนปาล
นัดเจอกันที่สนามบินดอนเมือง จากนั้นเดินทางสู่สนามบินลัคเนาว์ ประเทศอินเดีย เหัวหน้าคณะแสวงบุญนำทุกท่านผ่านพิธีการตรวจคนเข้าเมือง แล้วเดินทางด้วยรถโคชปรับอากาศ สู่เมืองสาวัตตถี (เวลาของประเทศอินเดียจะช้ากว่าไทย 1.30 ชั่วโมง จึงต้องทำการปรับเวลาบนนาฬิกาของทุกท่านเพื่อสะดวกในการนัดหมายเดินทาง)
วันที่ 2 ของการเดินทางโปรแกรมพาไปแสวงบุญ 4 สังเวชนียสถานและสถานที่สำคัญทางพระพุทธประวัติ ณ ประเทศอินเดียและเนปาล
นำไปนมัสการสถูปยมกปาฏิหาริย์ จากนั้นนำชมวัดพระเชตวันมหาวิหารวัดที่พระพุทธเจ้าประทับนานที่สุดรวม 19 พรรษา ชมต้นอานันทโพธิ์ที่ปลูกมาตั้งแต่สมัยพุทธกาลปัจจุบันมีอายายาวนานร่วม 2600 ปี สักการะพระคันธกุฎีที่ประทับของพระพุทธเจ้า และชมกุฏิของพระอริยสงฆ์ในสมัยพุทธกาล รวมทั้งยังมีสถานที่สำคัญอีกหลายอย่างได้แก่ ที่ประชุมสงฆ์ สถานที่ที่พระเทวทัตและนางจิญจมาณวิกาถูกธรณีสูบเป็นต้น จากนั้นไปเยี่ยมชมคฤหาสถ์ของอนาถบิณฑิกเศรษฐี มหาเศรษฐีใจบุญที่มีคุณาปการยิ่งใหญ่ได้รับการยกย่องจากพระพุทธเจ้าว่าเป็นเลิศในการถวายทาน และบ้านขององคุลีมาลที่รัฐบาลอินเดียต้องมาล้อมรั้วเนื่องจากชาวอินเดีย่เชื่อว่าดินในบริเวณบ้านขององคุลีมาลสามารถล้างบาปได้จึงมาแอบขุดดินไปเป็นจำนวนมาก คืนนี้พักผ่อนที่วัดไทยสาวัตถีหรือโรงแรมท้องถิ่น
วันที่ 3 ของการเดินทางไปแสวงบุญตามรอยบาทพระศาสดาที่ประเทศอินเดียและเนปาล
เดินทางสู่ด่านโสเนาลีเพื่อข้ามด่านตรวจคนเข้าเมืองสู่ประเทศเนปาล แวะเที่ยวและชิมโรตีอารีดอยที่อร่อยมากของวัดไทยนวราชรัตนาราม960 จากนั้นพาคณะข้ามด่านโสเนารีเพื่อผ่านขั้นตอนตรวจคนเข้าเมืองสู่ประเทศเนปาลสู่ลุมพินีวัน มหาสังฆารามอนุสรณ์ลุมพินี สถานที่ประสูติของพระพุทธเจ้า ชมวิหารมายาเทวีและแผ่นศิลาหมายที่กำหนดไว้เพื่อระบุตำแหน่งที่ประสูติอันชัดเจนแน่นอน และยังมีสิ่งบ่งชี้สำคัญอีกหลายอย่างที่น่าสนใจในพื้นที่ของลุมพินีวัน คืนนี้นอนโรงแรมท้องถิ่นของเนปาล(โรงแรมที่พักอาจมีการเปลี่ยนแปลงขึ้นอยู่กับการจอง)
วันที่ 4 ของการเดินทางไปแสวงบุญ ณ สถานที่ต้นกำเนิดของพระพุทธศาสนาที่ประเทศอินเดียและเนปาล
นำชมพระราชวังกบิลพัสต์ พระราชวังที่พระทับของเจ้าชายสิทธัตถะก่อนออกบวช วัดนิโครธารามสถานที่ที่พระกุมารราหุลบวชเป็นสามเณรองค์แรกในพระพุทธศาสนา แล้วพาไปชมความสวยงามของวัดพุทธนานาชาติทั้งนิกายเถรวาทและมหายานในเขตลุมพินีวัน คืนนี้นอนโรงแรมท้องถิ่นของเนปาล(โรงแรมที่พักอาจมีการเปลี่ยนแปลงขึ้นอยู่กับการจอง)
วันที่ 5 พาไปแสวงบุญตามรอยพระศาสดา ณ แหล่งต้นกำเนิดตามพระพุทธประวัติที่ประเทศอินเดียและเนปาล
พาคณะข้ามด่านโสเนารีเดินทางกลับเข้าสู่ประเทศอินเดีย แล้วเดินทางสู่สาลวโนทยาน เมืองกุสินารา สถานที่ดับขันธปรินิพพานของพระพุทธเจ้า เข้านมัสการพระพุทธมหาปรินิพพาน ที่สร้างอย่างสมจริงประหนึ่งเราได้เข้าเฝ้าพระพุทธเจ้าขณะสิ้นพระชนม์จริงๆ จากนั้นไปชมมกุฏพันธนเจดีย์สถานที่ถวายพระเพลิงพระพุทธสรีระ มีเวลาก็แวะเที่ยววัดไทยกุสินาราเฉลิมราชย์ คืนนี้พักค้างคืนที่กุสินารา
วันที่ 6 พาไปแสวงบุญ ณ สถานที่ประสูติ ตรัสรู้ ปฐมเทศนา และปรินิพพาน รวมทั้งสถานที่สำคัญในพุทธประวัติอีกมากมายที่ประเทศอินเดียและเนปาล
เดินทางสู่เมืองไวสาลี พาชมกูฎาคารศาลาป่ามหาวัน สถานที่กำเนิดภิกษุณีรูปแรกในพระพุทธศาสนา ชมเสาอโศกต้นที่สมบูรณ์มากที่สุดในปัจจุบัน ไปเยือนอานนทสถูป , หมู่บ้านกาละมะ , ปาวาลเจดีย์สถานที่พระพุทธองค์ทรงปลงสังขาร แล้วเดินทางสู่เมืองราชคฤห์เพื่อพัก 1 คืน
วันที่ 7 พาไปแสวงบุญในสถานที่สำคัญในพุทธประวัติ ที่ประเทศอินเดียและเนปาล
พาขึ้นเขาคิชฌกูฏ นมัสการพระมูลคันธกุฎีที่ประทับของพระพุทธเจ้า , กุฏิของพระอานนท์ , ถ้ำพระสารีบุตร , ถ้ำพระโมคัลลานะ , จุดที่พระเทวทัตกลิ้งหินมุ่งทำร้ายพระพุทธเจ้า , โรงพยาบาลหมอชีวกโกมารภัจจ์ , คุกที่ขังพระเจ้าพิมพิสาร , วัดเวฬุวัน วัดแห่งแรกในพระพุทธศาสนาและสถานที่ทรงแสดงโอวาทปาฏิโมกข์แก่พระขีณาสพ 1,250 รูป , บ่อน้ำร้อนตโปทาราม , ทางเกวียนโบราณ , มหาวิทยาลัยนาลันทา มหาวิทยาลัยแห่งแรกของโลก , สถูปนิพพานของพระสารีบุตร , สักการะหลวงพ่อองค์ดำอายุมากกว่า 1,400 ปี ที่เหลือรอดจากการทำลายจากคนต่างศาสนา แล้วแวะกินขนมขาชาอันลือชื่อจากนั้นเดินทางสู่พุทธคยา พักค้างคืนที่เมืองคยา
วันที่ 8 พาไปแสวงบุญในชมพูทวีปชมต้นกำเนิดของพระพุทธศาสนาในอินเดีย
พาเข้านมัสการมหาเจดีย์พุทธคยา สถานที่ตรัสรู้เป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้าของเจ้าชายสิทธัตถะ ชมพระแท่นวัชรอาสน์ใต้ต้นพระศรีมหาโพธิ์ และสถานที่ที่พระพุทธองค์เสวยวิมุติสุข ชมพระพุทธเมตตาอายุกว่า 1,400 ปีที่สวยงามและศักดิ์สิทธิ์มาก โดยเป็นพระพุทธรูปองค์เดียวที่พ้นจากการทำลายของคนต่างศาสนา จากนั้นไปชมบ้านนางสุชาดาผู้ถวายเข้ามธุปายาส , สถานที่ทรงอธิษฐานลอยถาดทองคำเสี่ยงทาย , บ้านของโสตถิยะพราหมณ์ผู้กวายหญ้ากุสะรองนั่งในคืนตรัสรู้ และแวะเที่ยวชมวัดพุทธนานาชาติในเมืองคยา พักค้างคืนที่เมืองคยา
วันที่ 9 พาไปเที่ยวอินเดียและเนปาล ศึกษาต้นกำเนิดของพระพุทธศาสนา
เดินทางสู่เมืองพาราณสี นำชมเจาคันธีสถูปสถานที่ทรงไปพบปัญจวัคคีย์ทั้ง 5 หลังการตรัสรู้ จากนั้นเดินทางเข้าสู่ป่าอิสิปตนมฤคทายวันไปสักการะธัมเมกขสถูป สถานที่ทรงแสดงปฐมเทศนาและกำเนิดพระสงฆ์รูปแรกในพระพุทธศาสนา นำชมพระมูลคันธกุฎีที่ประทับของพระพุทธเจ้า , ธัมมราชิกสถูปสถานที่ทรงแสดงอนัตตลักขณสูตรแก่พระปัญจวัคคีย์ , ยสะเจดีย์และร่องรอยกุฏิสงฆ์กว่า 1,000 หลัง ไปชมวัดมูลคันธกุฎีวิหารของศรีลังกา และช่วงกลางคืนจะพาไปนั่งเรือล่องแม่น้ำคงคายามราตรีชมพิธีมหาคงคาอารตีของฮินดู คืนนี้พักที่วัดไทยพาราณสีพุทธวิปัสสนา
วันที่ 10 พาไปเที่ยวอินเดียและเนปาล ตามรอยเส้นทางของพระพุทธเจ้า
ไปชมพิพิธภัณฑ์สารนาถแหล่งรวบรวมหลักฐานทางพุทธประวัติมากมาย จากนั้นแวะชมวัดไทยสารนาถแล้วเดินทางสู่สนามบินวรานาสี(พาราณสี) เพื่อเดินทางกลับเมืองไทย ถึงสนามบินดอนเมืองให้ทุกท่านปรับนาฬิกาเร็วขึ้นตามเวลาของประเทศไทยที่เร็วกว่าประเทศอินเดีย 1.30 ชั่วโมง
หมายเหตุ การเดินทางในแต่ละครั้งอาจมีการเปลี่ยนแปลงรูปแบบการเดินทางเพื่อให้สอดคล้องกับสถานการณ์ และ
1 การเดินทางจะจัดเป็นคณะ คณะละประมาณ 20-30 ท่าน ผู้ที่จะร่วมเดินทางต้องมีวันอายุคงเหลือของหนังสือเดินทางไม่น้อยกว่า 6 เดือน และมีหน้าว่างเหลือไม่น้อยกว่า 6 หน้า
2 กำหนดการเดินทางระหว่าง เดือนพฤศจิกายน 2566 - กุมภาพันธ์ 2567 วันที่ชัดเจนจะแจ้งให้ทราบเป็นรอบๆ ไป ตามยอดคณะผู้เดินทางที่จอง
3 ราคาค่าบริการประมาณท่านละ 34,000-36,000 บาท ขึ้นอยู่กับราคาตั๋วสายการบินและช่วงเทศกาล
4 เปิดรับสมัครคณะผู้ร่วมเดินทางไปแสวงบุญตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป จองก่อนภายในเดือนพฤษภาคม 2566 รับของที่ระลึกจากดินแดนพุทธภูมิฟรี (ขอสงวนสิทธิ์ในการให้ของที่ระลึกตามลำดับคิวที่จอง)
5 เงื่อนไขการจอง มัดจำงวดที่ 1 ในวันจองจำนวน 5,000 บาท งวดที่ 2 จำนวน 15,000 บาท ในวันที่ทำวีซ่า และงวดที่ 3 ชำระที่เหลือทั้งหมดก่อนเดินทางไม่น้อยกว่า 30 วัน โดยขอสงวนสิทธิ์ในการคืนเงินจองและไม่สามารถเปลี่ยนชื่อผู้เดินทางหลังจากขอวีซ่าและจองตั๋วสายการบินแล้ว
6 พิเศษสุดๆ เพื่อให้ผู้แสวงบุญสามารถร่วมเดินทางได้ง่ายขึ้น สามารถผ่อนชำระได้ในอัตราเดือนละ 3,000 บาท โดยทั้งนี้ต้องชำระส่วนที่เหลือทั้งหมดก่อนเดินทางไม่น้อยกว่า 30 วัน
สนใจร่วมเดินทางไปแสวงบุญเป็นหมู่คณะทั้งพระสงฆ์และฆราวาส ไปสักการะ 4 สังเวชนียสถานอันเป็นสถานที่ ประสูติ ตรัสรู้ แสดงปฐมเทศนาและดับขันธปรินิพพานของพระพุทธเจ้า ที่ประเทศอินเดียและประเทศเนปาล พาเที่ยวโดยผู้ที่มีความรู้ความเชี่ยวชาญในสถานที่และพระพุทธประวัติ ได้ทั้งความรู้และอิ่มบุญ จะจัดทริปเดินทางในระหว่างเดือนตุลาคม - กุมพาพันธ์ โดยมีค่าใช้จ่ายเบื้องต้นประมาณท่านละสามหมื่นบาทเศษตามจำนวนผู้เดินทางและฤดูกาลที่เดินทางไป สามารถสอบถามรายละเอียดในการเดินทางเพิ่มเติมได้ที่โทร. 084-625-9929