ยุคนี้สมัยนี้คนเราเริ่มป่วยกันตั้งแต่อายุน้อยๆ โดยเฉพาะคนที่ใช้ชีวิตแบบสะดวกสบาย กินข้าวนอกบ้านและขาดการออกกำลังกายแถมอยู่ในสถานที่อากาศไม่ค่อยจะบริสุทธิ์ซักเท่าไร ทำให้ครบองค์ประกอบของการเกิดโรคเรื้อรังทั้ง โรคไขมันในเลือดสูง โรคความดันโลหิตสูง โรคหัวใจ และโรคที่คนไทยฮิตเป็นตามๆ กันมาตั้งแต่ยุคปฏิวัติเกษตรกรรมแล้วนั่นก็คือมะเร็ง
แน่นอนว่าไม่มีใครอยากป่วย แต่เราก็เชื้อเชิญมันมาเองผ่านอาหารที่กิน สิ่งแวดล้อมที่อาศัย และขาดการออกกำลังกาย ไม่ต้องบอกก็คงรู้ว่า ถ้าเราทำตัวตามสบายๆ แบบเดิมๆ เราก็คงจะป่วยเหมือนคนที่ใช้ชีวิตคล้ายๆ กัน ถึงวันนัดก็ต้องไปนั่งรอคิวยาวเหยียดในโรงพยาบาลเพื่อหิ้วยาถุงใหญ่ๆ มากินแทนอาหาร แต่ปล่อยตัวสบายตามใจปากมากขึ้นนานอีกหน่อยก็ได้ออปชั่นการรักษาที่เพิ่มขึ้นมากกว่ากินแค่ยา ดูคล้ายคนที่ป่วยเหล่านั้นจะพึงพอใจที่จะใช้ชีวิตลำบากแบบนั้นเพราะไม่ค่อยเห็นใครฮึดขึ้นมาเปลี่ยนแปลงตัวเอง
แต่ถ้าเราไม่อยากเป็นเหมือนเพื่อนข้างบ้าน ที่เชื่อได้ค่อนข้างแน่นอนว่าใน 10 บ้านที่มีวัยกลางคนขึ้นไปจะต้องมีเกือบครึ่งหรืออาจจะมากกว่าก็ได้ในบางสังคมบางอาชีพที่จะต้องมีคนป่วยด้วยโรคที่กล่าวถึงข้างต้นติดบ้านอยู่ด้วย แถมเราก็เห็นอายุคนที่เริ่มป่วยเป็นโรคเรื้อรังเหล่านี้มีอายุที่ลดลงเรื่อยๆ ถ้าไม่อยากกินยาแทนข้าวก็ต้องปฏิบัติตัวเสียใหม่ เริ่มตั้งแต่เปลี่ยนนิสัยการกินเสียแต่วันนี้ก่อนที่จะสายเกินไป หรือถ้าร่างกายแย่แล้วก็ต้องปรับนิสัยและการใช้ชีวิตเพื่อฟื้นฟูบำรุงร่างกายให้ดีขึ้นไม่ใช่ปล่อยให้แย่กว่าเก่า เริ่มต้นง่ายๆ ด้วยการปฏิวัติการกิน ลดรสหวานมันเค็ม เลิกกินสารกันบูด งดเว้นบริโภคยาฆ่าแมลงและหลีกเลี่ยงสารเคมีที่ใส่ลงไปเพื่อให้อาหารดูน่ากิน ทำได้ก็เชื่อว่าจะลดความทรมานจากปากเป็นเหตุ สามารถสังเกตและวัดผลได้ไม่ยากโดยเฉพาะคนที่ถูกบังคับให้จำเป็นต้องชอบไปเจาะเลือดตรวจที่โรงพยาบาลเป็นประจำอยู่แล้ว